รีวิวงานเช่าที่นาทำ ปลูกข้าว

วันนี้เรามีรีวิวงานที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ เป็นงานเช่าที่นาเพื่อปลูกข้าว จะมีรายละเอียดอะไร ยังไงบ้าง เราลองมาฟังรีวิวการทำงานนี้จากคุณบัว เพศหญิง อายุ 72 ปี นิสัยส่วนตัวมัธยัสถ์ อดออม ขยัน ระดับการศึกษาเทียบเท่าม.6 หรือต่ำกว่า งานนี้ทำมาหลายปีแล้วตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่

เหตุผลที่เลือกงานทำนานี้เพราะว่าเป็นคนไม่มีที่นาไว้ทำกินและเป็นคนที่มีลูกหลานเยอะและถ้าจะซื้อกินคิดว่าไม่น่าไหวก็เลยทำมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าด้วยการเช่าที่นาคนอื่นเขาทำเกษตรกรรม อีกอย่างถ้าเกิดทำแล้วเขาก็แบ่งให้เรา80 เปอร์เซ็นต์ และนอกจากเอาไว้ทำกินแล้วเราก็ยังขายได้อีก

หน้าที่หลักๆที่เราต้องทำในการทำนาแต่ละปีมีอะไรบ้าง

สืบเนื่องจากสมัยก่อนตั้งแต่อายุยังไม่แตะเลยเลข 70 ก็จะเดินเท้าไปที่ทุ่งนาที่ห่างจากบ้านเราราวๆ 2 กิโลกรัมทุกวันตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะไปดูที่นาที่เราเช่าเขาทำเราราวๆ 19-21 ไร่ เพื่อจะเช็คว่ามีใครมาตกปลาเราไหม ถ้าเป็นหน้าแล้งเราก็จะถางหญ้าที่มันขึ้นมากมายบนทางเดินระหว่างที่นา แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าทำนาเราก็จะต้องออกไปบ่อยหน่อย เพราะต้องไปเช็คว่ามีน้ำล้นไหมหรือว่ามีน้ำรั่วตรงไหนไหม ในเรื่องของปลูกข้าวจะมีสามีที่เป็นคนหว่านไถเราก็จะมีการจ้างไถจากหมู่บ้านใกล้เคียงเพราะว่าเขามีรถไถมาลงไร่ละ 200 บาท เสร็จแล้วก็จะให้สามีเป็นคนหว่านข้าว จากนั้นเราก็จะรอฝนตกแต่เราจะต้องเช็คตลอดว่าข้าวปลูกติดไหมถ้าไม่ติดเราก็จะต้องมีการไถ่กลบและก็หว่านใหม่อีกรอบ ปัจจุบันไม่ได้มีแบบถอนต้นกล้าแล้ว เป็นแบบหว่านหมดเลย มาถึงหน้าเก็บเกี่ยวแล้วก็จ้างรถเกี่ยวเขาเอาด้วยไร่ละประมาณ 500-800 บาท เมื่อเสร็จทุกอย่างกรอกข้าวใส่ถุงปุ๋ยเรียบร้อยเราก็จะต้องมีการแบ่งให้เจ้าของนา ด้วยหลักเปอร์เซ็นต์ 80 ของเราอีก 20 เปอร์เซ็นต์ของเจ้าของที่นา ก็เป็นการจบในแต่ละปี

รายได้ในการทำนาแต่ละปีดีไหม

รายได้ขึ้นอยู่กับช่วงแต่ละปีที่ทำว่ามีราคาขึ้นสูงหรือเปล่า ทำทุกปี ในระบบสวัสดิการนี้ไม่มีเพราะว่าเราเช่าที่นาเขาด้วยแต่เขาก็มีให้ปุ๋ยเราบ้างในบางปี ส่วนโอกาสก้าวหน้าต่อไปเราอาจจะไม่ต้องได้ปลูกข้าวเพราะมีการคิดกับสามีว่าจะปลูกเป็นพริกหรือไม่ก็ปลูกอ้อยทั้งไร่เลย อยากทำที่ได้ค่าตอบแทนสูง แต่ก็จะติดปัญหาเพราะว่าเราเช่าที่นาเขาทำนา
เพื่อนร่วมงานเป็นยังไงบ้าง เพื่อนร่วมงานก็จะมีสามีแล้วก็ลูกชายและหลานชายบ้างที่เขาเข้ามาช่วยในช่วงหว่านเพราะว่าต้องหว่านราวๆ 21 ไร่ ก็ต้องมาหว่านช่วยกัน ลูกๆก็ดีเขาก็มาช่วยทำ แต่ว่าเรื่องเพื่อนที่มีที่นาข้างๆกันก็จะแบบเห็นแก่ตัวก็มี ไม่ค่อยช่วยเหลือกันแถมยังไม่สนับสนุนอีกด้วย

ในระบบการจัดการเรากับสามีก็จะวางแผนการเก็บเงินไว้ก่อนเพื่อที่จะเอามาลงทุนในเรื่องการทำเกษตรหรือว่าการปลูกข้าวแต่ละปี แล้วก็จะต้องมาแบ่งอีกว่าจะต้องเอาข้าวเหนียวหรือข้าวเจ้า ในแต่ละปีจะต้องเลือกว่าข้าวชนิดไหนจะต้องปลูกเยอะกว่า เนื่องจากราคาข้าวไม่ค่อยดีนัก

ข้อดีและข้อเสียในการทำอาชีพนี้

ข้อดี คือเราลงทุนเองแล้ว ข้อดีของงานนี้ก็ทำให้เราไม่อดอยากในเรื่องข้าวไว้กิน แต่ให้ขายตอนนี้คือขายไม่ได้ อีกข้อดีก็คือช่วยในเรื่องลดค่าใช้จ่ายในการซื้อข้าวให้กับลูกๆหลานๆและเจ้าของเขาก็จะมีเงินมาสมทบให้ค่าปุ๋ย ก็ถือว่าโอเคมาก ถ้าเกิดว่าให้เราไปซื้อกินก็คงซื้อกินไม่ไหวเพราะลูกหลานเยอะ

ข้อเสีย การทำนาจะทำได้ปีละครั้งเราก็จะต้องรอไปเป็นปีต่อปี อีกอย่างปัจจุบันราคาข้าวค่อนข้างตกต่ำมีค้างไว้ที่บ้านเยอะแต่ว่าขายไม่ได้เพราะว่าราคาค่อนข้างต่ำไม่สมดุลกับรายจ่ายเพราะเราจ่ายทั้งค่าไถนา ค่าเก็บเกี่ยว เลยต้องสต๊อกไว้ที่บ้านค่อนข้างเยอะ
สำหรับความรู้สึกที่มีต่องานนี้เป็นยังไงบ้าง

ส่วนตัวเราทำมาเป็นระยะเวลา 10 ปีกว่าแล้ว ถ้าให้มองว่าตอนนี้คือไม่คุ้มค่าเพราะว่าปัจจุบันราคาข้าวค่อนข้างต่ำขายไม่ได้เก็บไว้แค่กินซึ่งต่อปีก็เหลือข้าวทุกปีเวลาทำใหม่ก็จะมีข้าวใหม่มาเรื่อยๆอีกคือขายไม่ออก ทำให้รู้สึกว่าไม่คุ้มค่ากับที่เราลงแรงและเสียเวลาในการทำด้วย
สรุปงานเช่าที่นาทำการเกษตร เป็นงานที่ทำได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น และการทำนาถือว่าเป็นงานที่ค่อนข้างหนักและมีค่าใช้จ่ายในการทำนาถือว่าค่อนข้างสูง และผลตอบแทนในแต่ละปีก็ได้ไม่เท่ากัน แต่ข้อดีก็คือเราสามารถเก็บข้าวไว้กินได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน