รีวิวการทำงาน อาชีพขายอาหารในโรงเรียน

สัมภาษณ์ เพศ หญิง อายุ 63 ปี

หน้าที่หรือการปฏิบัติงานในการขายอาหารในโรงเรียน ทำอะไร

-เริ่มแรกเลยป้าเป็นคนเคยเปิดร้านอาหารขายข้าวราดแกงมาก่อน ป้าเลยมาประมูลกับทางโรงเรียนเพื่อเข้ามาขายอาหารในโรงเรียน การทำงานของป้าคือคิดเมนูในแต่ละวันว่าจะทำอะไรขายบ้าง

และป้าจะตื่นตี 2กว่า ออกไปตลาดกับลูกสาวเพื่อซื้อวัตถุดิบต่างๆที่จะนำมาทำอาหาร พอกลับถึงล็อกโรงเรียนที่ขายอาหารประมาณตี4ครึ่ง ป้าก็เริ่มทำปรุงอาหารเพื่อให้แล้วเสร็จทันขายช่วงเช้า โดยจะจ้างลูกน้องเป็นผู้ช่วยป้า 1 คน

ในแต่ละวันป้าจะทำกับข้าวขายประมาณ 8-10 อย่างเพื่อให้ตอบโจทย์ของนักเรียน ปกติทำขายทั่วไปก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ด้วยขายให้นักเรียนป้าเลยต้องคิดเมนูเปลี่ยนใหม่ทุกวัน ป้าจะทำกับข้าวแล้วเสร็จประมาณ 6 โมงเช้า(แต่จะทำเสร็จประมาณ 5-6อย่างก่อน) เพื่อให้มีกับข้าวทันขายนักเรียนที่มาเช้าๆทัน พอขายช่วงเช้าเสร็จประมาณ 8 โมงเด็กๆก็จะไปเข้าแถวเพื่อเคารพธงชาติ

หลังจากนั้นป้าก็จะทำกับข้าวเพิ่มต่ออีก 5-6 อย่างที่เหลือเพื่อนำขายนักเรียนช่วงพักกลางวัน ทั้งนักเรียนม.ต้นและนักเรียน ม.ปลาย กับข้าวส่วนมากที่ป้าทำก็จะมี กะเพรา พะแนง ผัดผัก ยำต่างๆ ไก่ทอด ไข่ตุ๋น ไข่เจียว ไข่ดาว ผัดปลาดุกกรอบและอื่นๆ แม้กระทั่งน้ำพริกต่างๆที่ครูเค้าชอบทานด้วยการขายทางโรงเรียนจะแบ่งขายออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นนักเรียนม.ต้นโรงเรียนให้เปิดขายได้ตอน 10.50 น.
และนักเรียน ม.ปลายขายได้ตอน 11.40 น.

ถ้าวันนึงป้าขายไม่หมดป้าก็ทำเป็นข้าวห่อไว้ขายตอนเย็นอีก
ทำขายห่อละ 10-15 บาท และป้าจะเริ่มเก็บล็อกทำความสะอาดภาชนะต่างๆหลังขายเสร็จแล้วประมาณบ่าย 3
ป้าก็จะกลับบ้าน อาบน้ำและพักผ่อน

ทำไมถึงเลือกที่จะทำงานขายข้าวตรงนี้

-คือป้ามีแฟนที่ทำงานเป็นนักการและลูกเขยทำงานอยู๋ที่โรงเรียนนี้ป้าเลยย้ายมาขายอาหารในโรงเรียนแทนที่เดิม ด้วยแฟนป้ามีบ้านพักอยู่ในโรงเรียน ครอบครัวเลยย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันทั้งหมดมีป้า แฟนป้า ลูกสาวป้า ลูกเขยป้าและหลานสาวป้า
ด้วยลูกสาวป้าไม่มีงานทำ ป้าเลยต้องอาศัยช่วยแฟนป้าหารายได้จุลเจือครอบครัวเพิ่ม โดยให้ลูกสาวป้ามาเป็นลูกน้องป้าอีกที ด้วยใจรักที่ป้าชอบทำอาหารด้วย ป้าเลยเลือกที่จะเข้ามาทำในโรงเรียนลองเปลี่ยนจากขายให้คนทั่วไปในตลาด เปลี่ยนมาขายให้กับนักเรียนดูบ้าง และช่วยแบ่งเบาภาระให้แฟนป้าด้วย

รายได้ ขายข้าในโรงเรียน ที่ได้รับเป็นอย่างไร

-รายได้นี่ป้าบอกไม่ได้เลย ว่าในแต่ละวันป้าจะขายได้มากน้อยเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนที่มาซื้อข้าวที่ร้านด้วย แต่โดยเฉลี่ยแล้ววันๆนึงหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ป้าก็จะมีรายได้วันละ 500 – 700 บาท ต่ำสุดที่ป้าได้คือ 350 บาท และสูงสุดที่ป้าขายดีๆก็ขายจะได้ 800 บาท ทั้งหมดคือหักค่าใช้จ่ายแล้ว จ่ายค่าลูกน้อง 300 บาท เฉลี่ยเดือนนึงป้าก็จะได้เงินประมาณเดือนละ 10,000 – 14,000 บาท โดยป้าจะแบ่งหักค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าบ้านในโรงเรียนประมาณ 3,000 บาท
ส่วนรายจ่ายอื่นๆป้าก็ไม่ได้จ่ายเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะเป็นแฟนป้าแลลูกเขยเป็นคนจัดการให้เกือบทั้งหมด

ข้อดีและข้อเสียของการขายข้าวในโรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง

-ข้อดีของป้า ที่ป้าได้มาขายอาหารในโรงเรียนก็คือบ้านพักป้าอยู่ในโรงเรียนอยู่แล้ว และตลาดก็อยู่ใกล้ๆบ้าน ทำให้สะดวกหลายๆอย่าง แล้วป้าคิดว่ายังไงก็ขายได้ เพราะนักเรียนยังไงก็ต้องมาซื้อข้าว ถึงแม้ว่านักเรียนอาจะเบื่อกับข้าวบ้าง
เพื่อนร่วมงานที่อยู่บนโรงอาหารด้วยกันก็มีมิตรสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างรอขายพักเที่ยงก็จะนำกับข้าวมานั่งแบ่งกินด้วยกัน
แม้กระทั่งนักการภารโรงก็จะมาทานข้าวด้วยกัน และยังมีคุณครูหลายๆคนที่ชอบมาซื้อข้าวร้านของป้าอีกด้วย

-ข้อเสียของป้า มันก็คือทางโรงเรียนคิดค่าประมูลล็อกแพงไปในแต่ละปี ปีแรกๆที่ป้ามาก็ยังพอรับได้ แต่พอหลังๆเปลี่ยนผู้บริหารใหม่
ไม่รู้ทำไมถึงเรียกเก็บค่าประมูลแพงขึ้นไปเกือบเท่าตัว และยังต้องจ่ายเป็นรายเดือนอีก ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์
ก็จะไม่ได้ขายเพราะโรงเรียนหยุด และยังมีที่ช่วงปิดเทอม ป้าก็ไม่ได้ขายอีก ก็จะอาศัยเงินเดือนของแฟนแลลูกเขยป้าใช้ไปก่อน
บางทีบางวันนักเรียนอาจจะเบื่อกับข้าวที่ป้าทำทุกวัน แต่ป้าก็ไม่รู้จะทำอะไรเพราะร้านข้าวก็มีหลายร้านและร้านผลไม้ ขนมขายอีกด้วย